วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556


ลง mac บน windows ด้วย vmware
ตรวจสอบเครื่องของท่านซะว่ารองรับ Hardware Virtualization หรือไม่
วิธีตรวจสอบ Hardware Virtualization
1. download securable.exe จาก google หรือ กดที่นี่
2. run securable.exe (ไม่ต้อง install)
3. ดูผลลัพธ์ ผลลัพธ์จะมี 4 แบบด้วยกัน ที่เราสนใจมีดังนี้


แบบที่ 1. รองรับ Hardware Virtualization securable-on


แบบที่ 2. รองรับ Hardware Virtualization securable-locked-on


แบบที่ 3. ไม่รองรับ Hardware Virtualization (รองรับแต่ถูกdisableอยู่ ให้ไปที่ BIOS โดย restart เครื่องกด del, F10 หรือ F12 แต่ล่ะเครื่องจะไม่เหมือนกัน จากนั้นไป enable Virtualization ลองหาดูครับ) securable-locked-off


แบบที่ 4. ไม่รองรับ Hardware Virtualization securable-no
หลังจากตรวจสอบว่ารองรับ Hardware Virtualization แล้ว
2. ติดตั้ง VMware
- ให้โหลด VMware Workstation version 7 ลองหาจาก google ครับ
- หลังจากนั้นให้ติดตั้ง VMware ติดตั้งค่อนข้างง่าย
- เปิดโปรแกรม VMware จะได้หน้าตาเป็นดังต่อไปนี้
intro-vmware
3. โหลด แผ่น Boot OSX และ แผ่น OSX
- Darwin_SnowLeopardv2.0.iso หาได้จาก google หรือ กดที่นี่
- Mac OS X 10.6.3 retail.iso (ปัจจุบันแนะนำ version ที่สูงกว่า 10.6.6 นะครับจะได้ไม่มีปัญหาตอนลง cocos2d ครับ) หาได้จาก google อันนี้ ขนาดใหญ่หน่อยประมาน 7.9 GB แนะนำให้โหลดแบบ bittorrent ลองหาแบบมี seed เยอะๆจะได้เร็วๆ
บทความต่อไปหลังจากที่เราเตรียมทุกอย่างพร้อมล่ะ จะสอนวิธีการตั้งค่า VMware และเริ่มติดตั้ง OSX
ลง mac บน windows ด้วย vmware ตอนที่ 2

ลง mac บน windows ด้วย vmware ตอนที่ 2

OK ครับหลังจากดูการเตรียมเครื่องมือต่างๆพร้อมล่ะ มาดูตรวจดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนนะครับ 1. ต้องรองรับ Hardware Virtualization 2. ติดตั้ง VMware 3. โหลดแผ่น Boot OSX 4. โหลดแผ่น OSX หลังจากเตรียมการตาม 4 ข้อด้านบนเรียบร้อยแล้ว มาดูวิธีการตั้งค่า VMware และ การติดตั้ง Mac OSX กัน ก่อนจะเริ่มกัน สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านบทความสำหรับการเตรียมตัว กดอ่านได้ที่นี่ครับ

เริ่มจากการสร้าง VMware Virtual Machine หรือ การจำลองพื้นที่สำหรับใช้ลง mac นั้นเอง
1. ไปที่ File > New > Virtual Machine vmware-mac1

2. เลือก Typical > กดปุ่ม Next vmware-mac2

3. เลือกข้อสุดท้าย > กดปุ่ม Next vmware-mac3

4. เลือก Guest Operating System เป็น Other และ Version เป็น FreeBSD vmware-mac4

5. ตั้งชื่อ Virtual Machine เช่น OSX และ เลือกที่จัดเก็บ เช่น G:\Virtual Machine\OSX เป็นต้น > กดปุ่ม Next vmware-mac5

6. เลือกขนาด Disk แนะนำขั้นต่ำ 30 GB ครับ สำหรับคนต้องการจะลง cocos2d นะครับนอกนั้น 20 ก็พอครับ vmware-mac6

7. กด Finsh vmware-mac7
8. ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการ config VMware สำหรับ Mac OSX กด Edit virtual machine settings vmware-mac8
9. กดที่ Memory ปรับจำนวน Memory แนะนำที่ประมานครึ่งนึงของ Memory ทั้งหมด vmware-mac9
10. เนื่องจาก Floppy disk เราไม่ได้ใช้ก็ให้ลบมันออกไปซะ ให้กดที่ Floppy > กด Remove > กด OK vmware-mac10
11. ต่อไปจะเป็นการตั้งค่าให้ Boot Mac จาก Darwin_SnowLeopardv2.0.iso ก่อนที่จะไปเรียก แผ่น OSX โดย กดที่ CD/DVD (IDE) > เลือก Use ISO image file: > กด Browse... vmware-mac11
12. เลือกไฟล์ Darwin_SnowLeopardv2.0.iso > กด OK > ปิดโปแกรม VMware ครับ ***แนะนำเพิ่มเติมให้เก็บไฟล์ Darwin_SnowLeopardv2.0.iso และ Mac OS X 10.6.3 retail.iso ไว้ใกล้ๆกัน เช่น ของผม G:\Virtual Machine\ เพื่อให้สะดวกในการเรียกใช้ vmware-mac12
13. หลังจากปิด VMware แล้ว เนื่องจากเราจะไปแก้ไขไฟล์บางอย่าง ให้เปิดโปรแกรม notepad หรือ wordpad โดยไปที่ start (ซ้ายล่าง) > Programs > Accessories > notepad หรือ wordpad ตัวอย่าง notepad ดังรูป notepad
14. ให้ไปที่ Folder ที่เราจัดเก็บไฟล์ Virtual Machine มองหาไฟล์ที่มีนามสกุล .vmx เช่น ของผม คือ G:\Virtual Machines\OSX\OSX.vmx ให้ลากไฟล์นั้นไปวางใน notepad หรือ wordpad จะได้ผลลัพธ์ดังรูปต่อไปนี้ ***จากนั้นให้ เปลี่ยนคำสั่งจาก guestOS ="FreeBSD" เป็น guestOS ="darwin10" และ เพิ่มคำสั่ง paevm = "true" ไว้ล่างสุด จากนั้น save โดย กด Ctrl + s หรือ ไปที่ File > Save vmware-mac13
15. จากนั้นเปิด VMware ขึ้นมาใหม่ กดที่ Play on this virtual machine จะเหมือนเป็นการเปิดเครื่องจำลองล่ะ จะเห็นเป็นหน้าดำๆดังรูป vmware-mac15
16. ขั้นตอนนี้มันจะรอเรียกแผ่น ให้กด Enter 1 ที จากนั้นให้คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่าง > กด Connect จากนั้น คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่างอีกครั้ง > กด setting ***โดยการควบคุมหน้าจอระหว่าง windows กับ vmware ให้กด alt+ctrl และ ถ้าอยากให้ vmware เป็นแบบ full screen กด alt+ctrl+enter ไม่ต้องการ full screen ก็กด alt+ctrl+enter อีกครั้ง vmware-mac16
17. ให้เลือกไฟล์ OSX ของผมคือ Mac OS X 10.6.3 retail.iso จากนั้นกด c เพื่อให้เริ่มทำการ Boot แผ่น OSX vmware-mac17
18. ในที่สุดก็สามารถ Boot แผ่น OSX ได้ซักที ถ้าเห็นรูปแอปเบิ้ลก็คือคุณทำได้ล่ะ vmware-mac18
เท่ากับว่าตอนนี้เราสามารถ Boot แผ่น OSX ได้ล่ะ บทความต่อไปจะเป็นการติดตั้ง OSX และการแบ่ง Partition อ่านต่อได้ที่ ลง mac บน windows ด้วย vmware ตอนที่ 3
***สำหรับใครที่ใช้งาน window7 แล้วมีปัญหา!!! ลองแก้ไขตามนี้เลยครับ
http://blog.merrycode.com/how-to-install-mac-os-x-10-6-6-includes-app-store-in-vmware-on-windows-7/

 

ลง mac บน windows ด้วย vmware ตอนที่ 3

หลังจากที่เราได้ตั้งค่าต่างๆสำหรับ VMware และ เริ่มทำการ Boot แผ่น OSX ได้แล้ว ในบทความนี้จะเป็นการติดตั้งแผ่น OSXและการแบ่ง Partition ครับ สำหรับหลายๆท่านที่ได้ทำตามขั้นตอนต่างๆมาตั้งแต่แรก อาจจะเริ่มรู้สึกว่าทำไมมันเยอะและยาวขนาดนี้ แต่ผมบอกไว้เลยว่าพอท่านลงสำเร็จเสร็จสิ้น100%แล้ว ครั้งต่อๆไปก็แค่กด play อย่างเด๊ยว ก็สามารถเข้าไปใช้งาน mac OSX ได้เลย ดังนั้นขอให้ท่านอดทนและพยายามทำตามทุกๆขั้นตอนครับ OKงั้นมาเริ่มการติดตั้งกันเลยครับ...
สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านการติดตั้ง VMware และ การ Boot แผ่น OSX สามารถอ่านได้ ที่นี่ ครับ
OK ต่อจากความเดิมตอนที่แล้วนะครับ หลังจากที่ท่านโหลดผ่านหน้าที่เป็นรูป Apple มากจะพบหน้าตาดังด้านล้างต่อไปนี้
1. เลือกภาษาครับ ก็ภาษาอังกฤษล่ะกันครับ ใครถนัดภาษาอะไรก็เลือกได้เลย > จากนั้นกด ลูกศรด้านล่าง vmware-mac19

2. รอนิดหน่อย vmware-mac20

3. กด Continue vmware-mac21

4. กด Agree vmware-mac22

5. หน้าจอสำหรับเลือก Disk ในการติดตั้ง แต่ตอนนี้ยังว่างอยู่ vmware-mac23

6. ไปที่เมนู Utility ด้านบน > เลือก Disk Utility... vmware-mac24

7. คลิกที่ด้านซ้าย vmware-mac25

8. จะพบหน้าตาอย่างด้านล้างนี้ vmware-mac26

9. กด Partition vmware-mac27

10. ไปที่ Volume Scheme > เลือก 1 Partition พอ vmware-mac28

11. ตั้งชื่อ Volume Information Name เช่น ผมตั้ง HD > จากนั้นกด Apply vmware-mac29

12. จะมีหน้าขึ้นมาอีกหน้ากด Partition vmware-mac30

13. รอแปปนึงครับ vmware-mac31

14. เมื่อเสร็จจะเป็นหน้าตาดังด้านล่างครับ > จากนั้นกดปิดหน้านี้ไปครับ กดที่ปุ่มสีแดงด้านซ้ายบน vmware-mac32

15. เลือก Install Disk ที่เราสร้างขึ้นครับ > กด Install vmware-mac33

16. จะเริ่มทำการติดตั้งครับ ทีนี้ก็รอจะนานซักหน่อยครับ vmware-mac34

17. หลังจากติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว กด restart vmware-mac35

18. จะพบหน้า Operation System not found ไม่มีอะไรครับ ไม่ต้องตกใจดังรูป vmware-mac36

19. ให้คลิกขวาที่ รูป CD ด้านล่าง > กด setting > เลือก Darwin_SnowLeopardv2.0.iso > จากนั้นกด stop ที่กดสี่เหลี่ยมสีแดง > กด play อีกครั้ง vmware-mac37

20. หลังจากเราให้ VMware boot จากไฟล์ Darwin ระบบจะเข้ามาสู่หน้าจอ แอปเปิล รอสักนิดครับอย่าใจร้อน เท่ากับว่าตอนนี้เราติดตั้ง Mac OSX เรียบร้อยแล้ว และก็สามารถ Boot เข้าได้สำเร็จแล้ว ดีใจด้วยครับ ต่อไปนี้จะเป็นการตั้งค่าสำหรับเริ่มจากใช้งาน Mac OSX แล้ว โดย เลือก Continue vmware-mac38

21. เลือก Continue vmware-mac39

22. เลือกว่าต้องการโอนข้อมูลจาก Mac ที่เราเคยมีหรือไม่ ของผมไม่มี เลือก Do not transfer > กด Continue vmware-mac40

23. ไส่ Apple ID ถ้ามี ไม่มีก็กด Continue ได้เลยเหมือนกัน vmware-mac41

24. กรอกข้อมูลของท่านเพื่อทำการ Register ครับ แต่ถ้าไม่กรอกก็ Continue ได้เลย vmware-mac42

25. ของผมไม่กรอกข้อมูลครับ จะมีหน้าจอมาถาม ก็กดปุ่ม Continue ผ่านไป vmware-mac43

26. สร้าง Account สำหรับใช้ในเวลาติดตั้งโปรแกรมต่างๆบน OSX เหมือน ปกติจะให้ใส่ username และ password ตั้งดีๆครับ อย่าลืมนะครับ vmware-mac44

27. เลือก Time Zone หา Bangkok Thailand ครับ vmware-mac45

28. กด Go ครับ เสร็จซักที vmware-mac46

29. ยินดีต้อนรับเข้าสู่หน้าจอ Mac OSX ครับ vmware-mac47

เท่านี้เราก็สามารถเข้าไปใช้งาน Mac OSX ได้อย่างตามใจชอบแล้วครับ
สุดท้ายนี้สำหรับท่านใดยังมีข้อสงสัยสามารถสอบถามไได้ที่ comment ด้านล่าง หรือ email: admin@thaiiphonegame.com ครับ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่ได้ทำขึ้นคงมีประโยชน์ต่อหลายๆท่านไม่มากก็ น้อยครับ
สำหรับท่านใดลงไปแล้วแต่ต้องการ update version ของ mac OSX เชิญทางนี้ครับ --> วิธีอัพเดท version ของ Mac OSX สำหรับ Vmware

 

เครดิต http://www.thaiiphonegame.com

{ 1 ความคิดเห็น... read them below or add one }

Floating Vertical Bar With Share Buttons widget by chtvza.blogspot

ช่วยกัน like Facebookน่ะค่ะ

Powered By | คนไร้สาระ

Popular Posts

โฆษณาน่าสนใจ

ข่าวสารที่น่าสนใจ

Pages

ข่าวสารที่น่าสนใจ

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Copyright © ไอทีน่ารู้ บทความไอที -Black Rock Shooter- Powered by Blogger - Designed by Johanes Djogan